ประวัติโยคะ (บทเสริม)

วันนี้เรามาทำความเข้าใจกันหน่อยครับ สำหรับเรื่องเสื่อโยคะเราได้ว่ากันไปแล้ว คราวนี้เรามาต่อกันเรื่อง  โยคะ แบบถ่องแท้กันดีกว่าครับ  ซึ่งต้นกำเนิดโยคะ ได้เกิดขึ้นที่ประเทศอินเดีย เมื่อราว 4-5 พันปีมาแล้วถือว่านานมากๆครับ ตอนนั้นเรายังไม่เกิดด้วยซ้ำ เดิมทีโยคะเป็นการฝึกฝนในหมู่ของโยคี  และในหมู่ของ พราหมณ์ จุดประสงค์ของโยคะ ณ.ตอนนั้น เขาเชื่อกันว่า โยคะ สามารถรักษาโรคได้ และ โยคะเป็นสิ่งที่เอาชนะความเจ็บปวดได้ ซึ่งนั่นก็เป็นความเชื่อของหมู่โยคี และ พราหมณ์ ซึ่งต่อมา โยคะได้พัฒนามาเรื่อยๆ โดยผ่านลัทธิฮินดู จนมาถึงยุค พระพุทธศาสนา และมาถึงยุคลัทธิเซนในประเทศจีน  อ่านมาจนถึงตอนนี้แล้วคงจะตีความได้ว่า โยคะแท้ที่จริงแล้ว ไม่ใช่ของศาสนาใด  ศาสนาหนึ่ง หากแต่เป็น ศาสนาสากล และศาสนาต่างๆที่ได้รับต่อมาเรื่อยๆ สามารถนำศาสตร์ของโยคะเหล่านั้นมาปฏิบัติเพื่อเป็นส่วนหนึ่งให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของศาสนานั้นๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้โยคะเป็นที่แพร่หลายสำหรับคนทั่วโลก

ความหมายของโยคะ

โยคะ (Yoga) นั้นหมายถึง การสร้างความสมดุลของร่างกายนั่นหมายถึง การสร้างความสมดุลทั้งภายในและภายนอกด้วยครับ แต่ถ้าจะให้บอกตรงๆตัวเลยก็คือ การสร้างความสมดุล ร่างกาย จิตใจ และ จิตวิญญาณ โดยให้ทั้ง 3 สิ่งนี้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว เรียกได้ว่า หะฐะโยคะ (Hattha yoga)  ซึ่ง หะฐะโยคะ เป็น 1 ในสาขา ของโยคะทั้งหมด เป็นศาสตร์โยคะอีกหนึ่งชนิดที่ได้รับความนิยม และ ความสนใจทั่วโลก ความหมายก็คือการใช้ศิลปะการบริหาร ร่างกาย ภายใต้การควบคุมของสภาวะจิตใจ เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งด้านบวก และ ด้านลบ ใช่แล้วครับ โยคะสามารถนำมาบรรเทา หรือบำบัดโรคได้ เช่น แก้ท้องผูก อาการบาดเจ็บภายในร่างกายต่างๆ สร้างความสมดุลภายใน  เป็นต้น  จึงเรียกสาขานี้ว่า หะฐะโยคะ( Hattha yoga) ครับ

ระดับของโยคะ มีทั้งหมด 8 ระดับ ดังนี้

1.       1. ศีลธรรม   Moral discipline (Yama)

2.        2.  จริยธรรม  Self-restraint (Niyama)

3.        3.  ท่าฝึกอาสนะ  Posture (Asana)

4.        4. ปราณายาม  Breath control (Prãnãyãma)

5.         5. การควบคุมความรู้สึก  Sensory inhibition (Pratyãhãra)

6.        6. การเพ่งจิต  (Dhãranã)

7.        7.  การภาวนาจิต  (Dhyãna)

8.        8.  สมาธิ   (Samãdhi) 

เสื่อโยคะ