ประเภทของโยคะ
1. หะฐะโยคะ (Hatha Yoga) เป็นสาขาของโยคะที่ถือกายเป็นฐานแรกที่จะต้องบังคับควบคุม
และทำให้สะอาดบริสุทธิ์เสียก่อน เพื่อสะดวกแก่การบังคับจิตใจขั้นสูงต่อไป เบื้องต้นของหะฐะ
โยคะ ได้แก่ท่าออกกำลังกายของโยคี หรือ ที่เราเรียกว่า “ฤาษีดัดตน” เป็นโยคะที่ได้รับการ
ปฏิบัติอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
2. ลายะโยคะ (Laya Yoga) ตามรูปศัพท์ หมายถึง พลังที่ซ่อนอยู่ เป็นการแสดงถึงความ
สำคัญของสาขาโยคะนี้ว่า มุ่งถึงการบังคับใจให้นิ่ง แล้วใช้ความนิ่งของใจนั้นปลุกพลังที่ซ่อนอยู่
ภายใน ซึ่งเรียกตามภาษาโยคะว่า “กุณฑลินี” Kundalini
3. มนตรโยคะ (Montha Yoga) โยคะสาขานี้ถือการท่องมนต์เป็นสิ่งสำคัญ และถือเป็นทางไป
สู่ความหลุดพ้นส่วนมนต์ที่ท่องนั้นก็ต้องเป็นมนต์ที่ปรมาจารย์เป็นผู้ผูกขึ้นและถือว่ามีความ
ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยมนต์ที่สูงสุดแห่งมนต์ทั้งหลายคือ “โอม” ประกอบด้วยคำสามคำ คือ อะ อุ มะ บาง
ตำราจะเรียกโยคะสาขานี้ว่า “จาปะโยคะ”
4. ภักติโยคะ (Pukthi Yoga) เป็นโยคะที่ถือการบวรสรวงเป็นหลัก เป็นสาขาของโยคะที่ปฏิบัติ
กันอย่างแพร่หลายมากในอินเดีย และมักจะผสมผสานกับมนตรโยคะ เนื่องจากมีความสัมพันธ์กัน
อย่างใกล้ชิด เป็นโยคะซึ่งมุ่งเน้นความสำคัญไปที่ด้านของจิตใจให้รู้จักการให้และการเสียสละ
5. กรรมโยคะ (Kumma Yoga) เป็นโยคะที่ถือการกระทำเป็นหลัก มีรากฐานมาจากกฎของเหตุ
และผล คือ มีกรรมก็ต้องมีผลกรรมควบคู่กันไป จัดเป็นโยคะที่อิงความเชื่อทางศาสนามากที่สุด
มีการเข้าฌาน การทำพิธีกรรม บวงสรวง และ สวดบูชาเทพเจ้า เป็นต้น
6. ญาณะโยคะ (Yana Yoga) ญาณแปลว่า “ความรู้ ปัญญา ปรีชาหยั่งรู้” เป็นโยคะที่เชื่อใน
เรื่องของความจริง และเชื่อว่าความรู้ที่ได้จากการฝึกปฏิบัติโยคะอย่างมีสมาธิ จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติ
แยกแยะระหว่างความจริงและการหลงผิดได้
7. ราชโยคะ (Raja Yoga) เป็นโยคะที่เน้นการเข้าฌานเพื่อทำให้เกิดสมาธิ ซึ่งต้องการความ
สงบทั้งร่างกายและจิตใจ ข้อดีของการฝึกโยคะชนิดนี้คือฝึกง่าย มีวิธีปฏิบัติที่แน่นอน ผู้ฝึกจะได้
ความสงบทางจิตใจและเป็นพื้นฐานของโยคะประเภทอื่นๆ ข้อเสียคือการฝึกจะต้องใช้เวลามาก
อาจจะทำให้ผู้ฝึกต้องแยกตัวเองออกจากสังคม
ประโยชน์ของโยคะ
การฝึกโยคะมีประโยชน์หลักดังนี้
1. เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ปรับระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ บำบัดโรคที่เกี่ยวกับเลือดไม่ดี
โรคภูมิแพ้ ผิวพรรณที่ไม่ผ่องใส สมองที่ไม่ปลอดโปร่ง มึนศีรษะง่าย
2. ด้านกายภาพบำบัด
2.1 กล้ามเนื้อ ข้อต่อ และเอ็น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้การเดินดีขึ้น การทรงตัวดีขึ้น
2.2 กระดูกสันหลังถูกปรับให้เข้าสภาพปกติ ป้องกันอาการปวดหลัง ปวดต้นคอและปวดศีรษะ
และช่วยปรับรูปร่างให้สมดุล กระดูกไม่งอ ไหล่ไม่เอียง
2.3 ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
2.4 ร่างกายมีสัดส่วนที่ดีขึ้น สมส่วน
2.5 ช่วยควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
3. กระตุ้นสมองให้มีความจำดีขึ้น
3.1 การผ่อนคลายลึกๆหลังการฝึก ทำให้เกิดคลื่นอัลฟา มีผลต่อการผ่อนคลายของสมอง
3.2 คลายความเครียด แก้โรคนอนไม่หลับ
4. นวดอวัยวะภายในให้แข็งแรงขึ้น เช่น หัวใจ มดลูก กระเพาะอาหาร ตับ ไต เป็นต้น ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น เลือดไปช่วยล้างไตให้สะอาดขึ้น ระบบการหายใจจะโล่งขึ้น ทำให้การเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ได้พลังงานเสริมความแข็งแรง
5. ด้านจิตบำบัด
5.1 จิตสงบและมีสมาธิมากขึ้น
5.2 ลดความวิตกกังวลและอาการตื่นกลัว
5.3 นักกีฬา นักเต้นรำ นักแสดง สามารถใช้โยคะเพื่อกำจัดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและเพิ่มสมาธิก่อนการแข่งขัน ก่อนการแสดง
6. เพศสัมพันธ์บกพร่องสามารถบรรเทา หรือแก้ไขได้ด้วยโยคะในหลายๆท่า
หน้าที่เข้าชม | 51,978 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 44,030 ครั้ง |
เปิดร้าน | 4 มิ.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ต.ค. 2568 |